การใช้ server ที่มีอยู่ในบริษัท ทำเป็น DNS นั้น เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหา
ของการใช้งานทั้งอีเมล หรือ website เนื่องจาก หากทุกอย่างถูกตั้งไว้ในที่ ที่เดียวกัน หาก DNS ล่ม ก็หมายถึง website และ อีเมลจะล่มไปด้วยนั่นเอง และ เนื่องจากระบบอีเมล และ website เสี่ยงต่อการติด blacklist มากกว่าปกติ หากมีการติดไวรัส ดังนั้น เมื่อ server ติด blacklist ขึ้นมา หมายความว่า DNS ที่ใช้ server เดียวกันก็จะติด blacklist ไปด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้งานอีเมลเป็นอย่างมาก เนื่องจากติด blacklist ในระดับ DNS ด้วย
เราควรกระลดความเสี่ยงหรือ ป้องกันการเกิดปัญหาได้ โดยใช้ DNS จากภายนอก และเลือกที่ DNS แต่ละค่าใช้ server คนละตัวกัน และแต่ละตัวควรตั้งคนละประเทศ จะเป็นการป้องกันปัญหาที่ดี เนื่องจากป้องกันปัญหาว่าหากตัวใดตัวนึง เกิดปัญหาอีกตัวหนึ่งก็จะปกติ หรือมีโอกาสน้อยมากที่จะล่มพร้อมกัน